รู้จัก ผักแขยง ผักชื่อแปลก แต่ประโยชน์เพียบ

วันนี้เราจะพามารู้จักกับ ผักแขยง หรือ ผักกะแยง ถือเป็นอีกผักหนึ่งที่มีให้สารอาหารและคุณค่าโภชนาการสูง ถือเป็นที่นิยมอย่างมากทางแถบภาคอีสาน เนื่องจากรสชาติที่เผ็ดร้อนของมัน ทำให้เหมาะกับการประกอบอาหารอีสาน โดยเฉพาะอาหารที่เป็นอาหารรสจัดอยู่แล้ว เช่น ก้อย ป่น แกล้มลาบ ส้มตำ แกงอ่อมเขียด ซุบหน่อไม้ ต้มยำ หรือนำมาแกล้มเป็นผักจิ้มกับพวกน้ำพริก จิ้มแจ่ว

ผักแขยง คือ ผักที่มีต้นกำเนิดมาจากหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีนตอนใต้ อินเดีย ศรีลังกา ลาว กัมพูชา ไต้หวัน รวมถึงตอนเหนือของออสเตรเลีย ส่วนประเทศไทยนั้นพบมากในภาคอีสาน และภาคเหนือ พบได้บริเวณที่มีความชื้น เช่น ริมคันนา ริมหนองน้ำ

แขยงจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน จัดเป็นวัชพืชในนาข้าว เป็นพืชล้มลุกเนื้ออ่อนมีอายุปีเดียว ลำต้นมีลักษณะอวบทรงกลม ตั้งตรงผิวลำต้นมีสีเขียวอ่อน และมีขนปกคลุม ด้านในลำต้นกลวงเป็นรูอากาศ เห็นได้ชัดโดยลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.2 – 0.35 เซนติเมตร สูงประมาณ 20 – 35 เซนติเมตร ลำต้นมีกลิ่นฉุนแรง และให้รสเผ็ด ใบเป็นใบเดี่ยว ขนาดเล็ก ออกเป็นคู่ตรงข้ามตามข้อปล้องของลำต้น หรืออาจมี 3 ใบก็ได้

🤢 คุณค่าทางโภชนาการของผักแขยง ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 32 กิโลแคลอรี , เส้นใย 1.5 กรัม , แคลเซียม 55 มิลลิกรัม , ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม เหล็ก 5.2 มิลลิกรัม , วิตามิน A ถึง 5,862 iu , วิตามิน B1 0.02 มิลลิกรัม , วิตามิน B2 0.87 มิลลิกรัม , วิตามิน B3 0.6 มิลลิกรัม , วิตามิน C 5 มิลลิกรัม

สรุปประโยชน์ของ ⭕ ผักแขยง

1. มีผลรับรองทางวิทยาศาสตร์ว่า น้ำมันหอมระเหยจากผักกะแยงมีฤทธิ์ต่อต้านจุลินทรีย์ ตัวมันน้ำมันหอมระเหยยังสามารถเป็นยาฆ่าแมลงในกลุ่มทำลายผลไม้ได้อีกด้วย ผักกะแยงยังเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางเพื่อไว้สำหรับป้องกันสารปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ได้อีกด้วย

2. โดย ผักแขยง ทั้งต้น จัดว่าเป็นผักพื้นบ้านที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีฤทธิต้านมะเร็ง ลดอาการเบื่ออาหาร ทำให้เจริญอาหาร ป้องกันเส้นเลือดตีบตันและ ลดไข้ ไข้ร้อนใน แก้ไข้ ยาขับลมและเป็นยาระบายท้อง ยาระบายอ่อนๆ โดยนำใบกะแยงทั้งต้น ประมาณ 30-40 กรัม ล้างน้ำสะอาด นำมาต้มกับน้ำดื่ม

3. แก้อาการคัน ฝี และกลาก แก้อาการบวม โดยเอากะแยงทั้งต้นมาต้มแล้วนำมาชะล้างตรงบริเวณที่เป็นที่มีอาการ หรือจะเอาไปคั้นเอาน้ำมาทา หรือบริเวณที่มีอาการ

4. เกษตรสามารถนำมาใช้ฉีดไล่แมลง และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มักปนเปื้อนในอาหารทำให้เกิดอาหารเป็นพิษอีกด้วย

5. รสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นฉุน ช่วยลดการเบื่ออาหาร และช่วยทำให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น

6. ใช้ทั้งต้นนำมาต้มดื่มเป็นยาระบายอ่อนๆ ได้ ขับลม ระบายท้อง

❌ ข้อควรระวังในการใช้

1.พบว่าผักกะแยงมีสาร แคลเซียมออกซาเลต สูง ที่ถือว่าส่วนสำคัญที่ไปสะสมในร่างกาย เช่น ไต กระเพาะปัสสาวะจะทำเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคนิ่วได้ อาจจะต้องรับประมานแต่พอดี หรือทานคู่กับอาหารรสเปรี้ยวสามารถช่วยละลายแคลเซียมออกซาเลตได้

2.ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ แม้ว่าจะยังไม่มีผลการวิจัยออกมายืนยัน แต่การที่ผักแขยงเป็นปักที่มีรสชาติร้อนแรง และกลิ่นฉุน ผู้ที่ตั้งครรภ์ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะอาจจะเกิดอาการผิดสำแดง หรือเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้

🥬 เมนูแนะนำ ต้มแซ่บปลาช่อนผักแขยง

วัตถุดิบ
ปลาช่อน 1 กิโลกรัม , น้ำสะอาด 1 ลิตร,พริกชี้ฟ้แดงจินดาสดโขลกพอแหลก 10 เม็ด, ข่า 2 หัว , ใบมะกรูด 10 ใบ , หอมแดงซอย 10 หัว , ตะไคร้ 4 ต้น , เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนชา , ผักชีฝรั่งซอย 8 ใบ , ใบแมงลัก ตามชอบ , ผักแขยง 1 กำมือ , พริกแห้งทอด 10 เม็ด , น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ตั้งหม้อใส่น้ำ เปิดไฟใช้ไฟกลาง รอให้น้ำเดือด ใส่ ข่า ตะไคร้ หอมแดงซอย ใบมะกรูด พริกแดงจินดาที่โขลกพอแหลก หลังจากนั้นรอให้น้ำเดือด ใส่เนื้อปลาช่อนลงไปต้มรอให้เดือดอีกรอบ อย่าคนเด็ดขาด

2.หลังจากนั้นเริ่มปรุงรสด้วย น้ำปลา เกลือ น้ำมะขาม คนให้ส่วนผสมเข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง
ใส่ใบแมงลัก ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง พริกแห้งทอด และผักแขยง คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติอีกครั้ง ปิดไปพร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ

⭕ บทความแนะนำเรื่องอาหาร
👉ประโยชน์ของ น้ำมะพร้าว และ ข้อควรระวังในการดื่ม
👉ควินัว คืออะไร ทำไมขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพชั้นเลิศ