รวม 7 สูตร ข้าวราดแกง ยอดฮิต ทำกินง่าย ทำขายรวยแน่นอน

แกงเขียวหวาน

แกงเขียวหวาน เมนูแกงยอดฮิต ที่ร้าน ข้าวราดแกง ที่ไหนก็ต้องมี แต่เชื่อหรือไม่ว่า ใครหลายคน แม้แต่เชฟระดับโลกหลายคน ก็ยังทำผิด เพราะบางทีใส่ส่วนผสมผิด หรือผัดพริกแกงไม่ถึงเครื่องบ้าง ดังนั้น หากใครอยากจะทำให้เหมือนกับต้นตำรับแล้วละก็ ลองทำตามสูตรของ Youtuber ช่อง กินได้อร่อยด้วย ดู รับรองว่า จะได้แกงเขียวหวานสีเขียวสวย ถูกต้องตามตำราแน่นอน

ส่วนผสม

• เนื้อไก่ 300 กรัม
• มะเขือเปราะ 300 กรัม
• มะเขือพวง 50 กรัม
• ใบโหระพา 1 กำมือ
• ใบมะกรูด 5 ใบ
• พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
• หัวกะทิ 200 กรัม
• หางกะทิ 400 กรัม
• พริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ทัพพี
• น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ คอยคนและเคี่ยวจนกว่ากะทิจะแตกมัน
2. ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป ผัดในหม้อจนกว่าจะได้กลิ่นหอม
3. หากผัดแล้วจับเป็นก้อน ให้เติมหัวกะทิลงไปเพิ่มเล็กน้อย
4. เมื่อหอมได้ที่ ให้ใส่เนื้อไก่ลงไป ผัดคลุกเคล้ากับพริกแกงเล็กน้อย แล้วพักไว้
5. เติมหางกะทิลงไป ต้มต่อไปจนกว่าจะเดือด เมื่อเดือดแล้ว ให้คนเนื้อไก่ เพื่อไม่ให้ติดก้นหม้อ และให้เนื้อไก่สุกทั่วกัน
6. เมื่อเดือดได้ที่ ใส่มะเขือเปราะลงไป ต้มให้เดือดอีกครั้ง
7. ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เพิ่มรสชาติ
8. เมื่อน้ำเริ่มเดือด ให้ใส่มะเขือพวง ต้มต่ออีกสักพัก
9. เมื่อน้ำเริ่มเดือด ใส่ใบมะกรูด ตามด้วยใบโหระพา คนกับน้ำเดือดเล็กน้อย แล้วปิดเตา ตกแต่งหน้าตาด้วยพริกชี้ฟ้าแดง เป็นอันเสร็จ

แกงพะแนง

อีกหนึ่งแกงที่ให้รสชาติของกะทิเข้มข้น และ สีส้มสวยสะดุดตา ทานแบบ ข้าวราดแกง กี่รอบก็อร่อย โดยสามารถใส่ได้ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ได้เลย ตามใจชอบ

ส่วนผสม

• สันคอหมูสไลด์ 500 กรัม
• พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
• ใบมะกรูด 5 ใบ
• หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
• หางกะทิ 300 มิลลิลิตร
• พริกแกงพะแนง 2 ½  ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ½  ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ½  ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ฉีกใบมะกรูดออก แล้วซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ เช่นเดียวกับพริกชี้ฟ้าแดง โดยพริกชี้ฟ้าแดง ให้คว้านเอาเมล็ดออกด้วย
2. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด จากนั้น หั่นหรือสไลด์เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ
3. ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่หัวกะทิลงไป แล้วเปิดไฟแรง คนและรอจนกว่าจะเดือด พอกะทิเริ่มเดือดแล้ว ให้ลดเป็นไฟกลางค่อนไฟอ่อน ผัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าหัวกะทิจะแตกมัน
4. พอหัวกะทิแตกมันดีแล้ว ให้ใส่พริกแกง พะแนง ลงไป ผัดให้เข้ากัน
5. ใส่เนื้อหมูลงไป ผัดให้เนื้อหมูสุก และคนให้แกงเข้าเนื้อ จากนั้น เติมหางกะทิ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนด น้ำปลา คนให้เข้ากัน
6. โรยใบมะกรูดซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

แกงไก่หน่อไม้ดอง

เมนูแกงที่จัดเต็มทั้ง หน่อไม้ และ เนื้อไก่ ราดข้าว ทานเป็น ข้าวราดแกง ก็ดี หรือ จะราดทานกับขนมจีนก็ได้ ยิ่งใส่ขาไก่ลงไปด้วยก็ยิ่งอร่อย ใครชอบทานหน่อไม้ ห้ามพลาดเลยกับเมนูแกงสูตรนี้

ส่วนผสม

• เนื้อไก่ 700 กรัม
• เลือดไก่ 300 กรัม
• หน่อไม้ดอง 1,000 กรัม
• ใบโหระพา 30 กรัม
• ใบมะกรูด 2 กรัม
• พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
• หัวกะทิ 700 กรัม
• พริกแกง 100 กรัม
• น้ำเปล่า 1,000 กรัม
• น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง เทหัวกะทิลงไปส่วนหนึ่ง ค่อย ๆ ผัดให้กะทิแตกมัน
2. ใส่พริกแกง 100 กรัม ผัดกับหัวกะทิ จนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้น ให้เติมหัวกะทิลงไปอีกเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน พอให้พริกแกงละลาย
3. ใส่เนื้อไก่ 700 กรัมลงไป ผัดให้เข้ากับพริกแกง พอผัดแล้วให้ทิ้งสักพัก ให้กะทิแตกมันขึ้มา ถึงตอนนั้น ให้เติมหัวกะทิลงไปอีก ให้พอละลายพริกแกงที่เหนียวข้น
4. นำหน่อไม้ดอง ใส่ตามลงไป คลุกเคล้ากับพริกแกงให้ทั่ว
5. เติมน้ำเปล่าลงไป ให้พอละลายพริกแกง คนใต้หม้อเล็กน้อย เพื่อให้พริกแกงผสมเข้ากัน
6. รอต้มจนน้ำเดือด เสร็จแล้ว ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
7. ใส่เลือดไก่ลงไป รอต้มจนเดือดอีกรอบ
8. เสร็จแล้ว ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูดฉีก และใบโหระพา คนผสมให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

แกงมัสมั่น

แกงมัสมั่น พร้อมเนื้อไก่ชิ้นใหญ่และมันฝรั่งชิ้นโต อาจดูเป็นเมนู ข้าวราดแกง ที่แสนธรรมดาในสายตาของคนไทย แต่ถ้านับในเรื่องของรสชาติแล้วละก็ กลับได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับ 1 จาก 50 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกเลยทีเดียว ดังนั้น หากอยากมีเมนูนี้ไว้ติดร้านข้าวแกง เผื่อให้ชาวต่างชาติได้มารับประทานแล้วละก็ ทำตามสูตรข้างล่างนี้ได้เลย

ส่วนผสม

• เนื้อไก่ส่วนสะโพกและน่องติดสะโพก 1,000 กรัม
• มันฝรั่ง 600 กรัม
• หอมใหญ่ 300 กรัม
• หัวกะทิ 600 กรัม
• หางกะทิ 600 กรัม
• ลูกกระวาน 10 กรัม
• ใบกระวาน 2 กรัม
• ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
• พริกแกงมัสมั่น 150 กรัม
• น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อ ใส่หัวกะทิลงไปส่วนหนึ่ง เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน ผัดและเคี่ยวกะทิให้แตกมัน พอกะทิแตกมันดีแล้ว ให้ใส่พริกแกงมัสมั่นลงไป ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน พอละลายเข้ากันดีแล้ว ให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป ปรับเป็นไฟแรงค่อนไฟกลาง ต้มให้พอเดือด
3. ใส่เนื้อไก่ส่วนสะโพกและน่องติดสะโพกลงไป ตามด้วยลูกกระวาน ใบกระวาน เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม จากนั้น เติมหางกะทิลงไป แล้วปรับเป็นไฟแรงสุด พอน้ำเดือดให้เปลี่ยนเป็นไฟกลาง ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าเนื้อไก่จะสุก ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที
4. พอไก่สุกและน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่มันฝรั่ง หอมใหญ่ ลงไป ต้มต่อไปจนกว่ามันฝรั่งจะสุก ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที โดยใช้ไฟกลางค่อนไฟอ่อน
5. พอมันฝรั่งสุกดีแล้ว ให้ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มต่อไปอีกสักพักนึง แล้วปิดเตา พร้อมเสิร์ฟ

แกงปลาดุก

แกงปลาดุก เป็นเมนู ข้าวราดแกง แบบเฮลท์ตี้ ที่ให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ นอกจากนี้ ก็ยังให้รสชาติดีเหมาะกับคนชอบกินปลามาก ๆ หากใครเบื่อทานเนื้อหมู เนื้อไก่ แล้วละก็ แนะนำเลย

ส่วนผสม

• ปลาดุก (หั่นชิ้น) 500 กรัม
• น้ำพริกแกงป่า 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช ¼ ถ้วย
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย
• กระชายซอย 100 กรัม
• มะเขือเปราะ (หั่นชิ้น) 200 กรัม
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• พริกชี้ฟ้า
• ใบกะเพรา

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อน ใส่น้ำพริกแกงป่าลงไปผัดจนหอม ตามด้วยปลาดุก ผัดให้สุก
2. เติมน้ำเปล่า รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา กับน้ำตาลปี๊บ
3. ใส่กระชาย กับมะเขือเปราะ รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่พริกชี้ฟ้ากับใบกะเพรา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

แกงเทโพ

เมนูแกง ที่อาจจะไม่ได้เห็นบ่อยตามร้าน ข้าวราดแกง มากนัก แต่ถ้าเอามาราดข้าวกินก็อร่อย โดยเคล็ดลับสำคัญคือ ต้องต้มให้หมูนุ่มและผักบุ้งนิ่มสุกกำลังดี ถึงจะทำให้เมนูนี้น่ารับประทาน สูตรจาก Youtuber ช่อง ดีกว่ากินดิน Eatdincooking

ส่วนผสม

• ผักบุ้งไทย 1 กำ
• หมูสามชั้น ตามชอบ
• พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
• กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 1 กล่อง
• น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น ปลายช้อน
• ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ

วิธีทำ

1. ใช้มีดหั่นผักบุ้งไทยเป็นท่อน ๆ
2. ตั้งกระทะ ผสมน้ำกับหัวกะทิประมาณ 3/4 กล่อง เพื่อทำเป็นหางกะทิ เทลงไปในกระทะส่วนหนึ่ง รอให้น้ำหางกะทิเริ่มร้อนแล้ว ใส่พริกแกงเผ็ดลงไป คนให้ละลายเข้ากัน
3. ใส่หมูสามชั้นลงไป ต้มให้สุก และเคี่ยวจนกว่าหมูสามชั้นจะนุ่มตามที่ต้องการ
4. พอหมูสุกดีแล้ว ให้เติมน้ำหางกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยผักบุ้งลงไป
5. ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว เกลือป่น คนให้เข้ากัน
6. ต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าผักบุ้งจะสุกและนิ่มลง พอได้ที่แล้ว ให้ใส่ใบมะกรูดโรยลงไป ตามด้วยหัวกะทิ เพื่อให้น้ำแกงมีความเข้มข้น พอเดือดอีกรอบหนึ่งแล้ว เป็นอันเสร็จ ตักเสิร์ฟใส่ชามได้

แกงกะหรี่

แกงกะหรี่ สูตรนี้ เป็นแบบไทย ๆ ได้รสชาติของหัวกะทิและผงกะหรี่เข้มข้น ราดข้าว ทานแบบ ข้าวราดแกง แล้วอร่อยสุด ๆ ไม่แพ้แกงกะหรี่แบบอินเดีย หรือว่า ญี่ปุ่น

ส่วนผสม

• สะโพกไก่หั่นเป็นชิ้น 400 กรัม
• มันฝรั่งหั่นชิ้น 350 กรัม
• หอมหัวใหญ่หั่นชิ้น 150 กรัม
• ผงแกงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง
• กะทิเข้มข้นปานกลาง 2 ถ้วยตวง
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงกะหรี่ลงผัดพอมีกลิ่นหอม เติมหัวกะทิลงผัดจนแตกมัน
2. ใส่สะโพกไก่ลงผัดพอเริ่มสุก เทใส่ลงในหม้อกะทิเข้มข้นปานกลาง ยกขึ้นตั้งไฟ
3. ใส่มันฝรั่ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
4. ใส่หอมหัวใหญ่ เคี่ยวต่อสักครู่จนมันฝรั่งเริ่มสุก ยกลง ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 สูตร ข้าวราดแกง ต่าง ๆ ที่นำมาฝากกัน ล้วนเป็นแกงยอดนิยม ที่ทุกคนต่างได้เคยกิน เคยรับประทานกันมาแล้วทั้งนั้นใช่มั้ยล่ะ ดังนั้น หากใครอยากทำไว้กินเอง หรือว่า อยากเปิดร้านขายข้าวแกง แล้วทำแกงขายด้วยตัวเอง เพื่อสร้างรายได้แล้วละก็ สามารถลองทำตามสูตรที่ SGE นำมาแนะนำได้เลย รับรองว่า อร่อยทุกสูตร ใครได้ทานต่างก็ต้องยกนิ้ว ติดใจกลับมารับประทานใหม่บ่อย ๆ แน่นอน

สำหรับใครที่อยากตำพริกแกง ไม่ว่าจะเป็นพริกแกงเผ็ด พริกแกงเขียวหวาน พริกแกงมัสมั่น ให้ได้ในปริมาณมาก ๆ โดยที่ไม่ต้องตำเองให้เมื่อยมือ แนะนำให้ใช้ เครื่องบดพริกแกง ของ SGE เพราะด้วยใบมีดที่เฉียบคม จะทำให้หั่น บด ส่วนผสมแต่ละอย่างเข้ากัน ช่วยให้คุณสามารถทำพริกแกงออกมาได้ ในระยะเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น เหมาะกับทั้งการใช้ในครัวเรือนและธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องการพริกแกงไว้ใช้ในปริมาณมาก หากสนใจ สามารถเข้าไปคลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://www.sgethai.com/product/meat-mincer-mga/ หรือสอบถามทางโทรศัพท์ Line ของ SGE ได้เลย  

บทความที่น่าสนใจ

• ข้าวแกง หลากหลายเมนู สูตรทำง่าย ขายยังไงก็กำไร
• แกงกะทิ เมนูกับข้าวทำง่าย ๆ อร่อยจนต้องร้องว้าว!