เคล็ดไม่ลับ เลือก “ถังแก๊ส” อย่างไรให้เหมาะกับบ้านคุณ
หากคุณอยู่ในบ้านที่ทำอาหารกินเอง “ถังแก๊ส” หรือ ก๊าซหุงต้ม น่าจะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สามัญประจำบ้านที่ต้องมีติดไว้ กระนั้นแม้ถังแก๊สจะอยู่คู่กับบ้านเรามาตั้งแต่เด็กยันโต แต่ก็เหมือนคนไม่สนิทเท่าไหร่ เพราะเรามักจะคิดว่าถังแก๊ส คือ อันตรายระดับระเบิดเวลาสามัญประจำบ้านนี่เอง แต่จริง ๆ แล้ว ถังแก๊สนั้นไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ถังแก๊ส คือ สิ่งที่ถูกคิดค้นมาแล้วว่ามีความปลอดภัยในระดับสากลที่เชื่อถือได้ เพราะด้านในบรรจุก๊าซ LPG ที่ติดไฟง่าย จึงต้องมีขั้นตอนควบคุมดูแลอย่างดีก่อนจะปล่อยออกสู่ครัวเรือนนนั่นเอง
วันนี้ SGE ขอพาไปทำความรู้จักกับ ถังแก๊ส ก๊าซหุงต้ม ที่ถูกต้อง เราจะพาไปทำความรู้จักกับความปลอดภัยที่แท้จริง การใช้งานถูกประเภท รู้จักวิธีการดูแล ถังแก๊สจะไม่อันตรายเลย
ถังแก๊ส มีกี่ประเภท?
ในปัจจุบันการใช้งานถังแก๊ส ยังได้รับความนิยมมาก เพื่อให้ได้เข้าใจว่าถังแต่ละแบบแต่ละประเภทเป็นอย่างไร แล้วแบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ ลองมาทำความรู้จักกับประเภทของถังแก๊สกันก่อนว่ามีแบบไหนกันบ้าง โดยถังแก๊สปัจจุบันมีด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้
- ถังแก๊สที่ทำด้วยเหล็ก หรืออะลูมิเนียม ถังแบบนี้ คือ ถังแก๊สหุงต้ม ซึ่งเป็นถังทั่วไปที่เราใช้งานกันอยู่ และเป็นแบบที่มีน้ำหนักสูง แต่ก็มีราคาที่ถูกที่สุดด้วย
- ถังแก๊สที่ทำด้วยเหล็ก หรืออะลูมิเนียม แต่มีการหุ้มอีกชั้นด้วยวัสดุใยแก้ว หรือเส้นใยคาร์บอน ถังแบบนี้ จะเป็นถังบรรจุแก๊ส ที่ใช้ต้องวางไว้นในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง เสี่ยงต่อการสะสมความร้อน จึงมีชั้นที่หนาขึ้นกว่าแบบแรก
- ถังแก๊สที่ทำด้วยแผ่นอะลูมิเนียมที่บางลงมา แต่เพิ่มความหนาด้วยการห่อหุ้มทั้งตัวถังด้วยวัสดุใยแก้ว หรือเส้นใยคาร์บอน ถังสำหรับรถยนต์ที่น้ำหนักเบา
- ถังแก๊สที่ทำด้วยแผ่นพลาสติก และทำการห่อหุ้มเพิ่มด้วยวัสดุใยแก้ว หรือเส้นใยคาร์บอนผสมใยแก้ว หรือที่เรียกว่า ไฟเบอร์กลาส ถังแบบนี้จะเป็นถังที่น้ำหนักเบาที่สุด เหมาะกับกลุ่มรถยนต์ที่ต้องการแบกน้ำหนักถังที่เบาลง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น
วิธีการเลือกใช้งานถังแก๊สให้เหมาะสมกับบ้าน
สำหรับแม่บ้าน พ่อบ้านที่ต้องการใช้งานครัว หรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ แล้วต้องใช้งานถังแก๊สนั้น จะต้องเลือกขนาดไหนถึงเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ลองมาดูวิธีการเลือกใช้งานเพื่อให้ทั้งปลอดภัย และเหมาะสม ดังนี้
ถังแก๊สขนาด 4 กิโลกรัม จะมีความสูงเพียง 40 เซนติเมตร หรือที่รู้จักกันในชื่อของถังปิคนิค มีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะกับบ้านขนาดเล็กที่มีพื้นที่ห้องครัวน้อย หรือไม่ได้มีห้องครัวเป็นกิจลักษณะ อาจจะยกถังไปทำบริเวณพื้นที่ซักล้างหลังบ้านเป็นครั้งคราว แต่ด้วยขนาดถังที่เล็กกว่าแบบอื่น จึงใช้งานได้ไม่มากเท่าขนาดถังอื่น |
ถังแก๊สขนาด 7 กิโลกรัม จะมีความสูงที่ 48 เซนติเมตร ถังแก๊สขนาดนี้ คือ ขนาดที่แบ่งทอนออกมาจากขนาดที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ คือ ขนาด 15 กิโลกรัม แต่ขนาด 7 กิโลกรัม เหมาะกับครอบครัวที่นาน ๆ จะทำกับข้าวกินเองสักครั้ง เช่น ใช้เวลาในการทำครัวน้อย หรือทำอาหารเพียงแควันเสาร์-อาทิตย์ หรือพื้นที่ของบ้านไม่มาก |
ถังแก๊สขนาด 11.5 กิโลกรัม จะมีความสูง 58 เซนติเมตร เป็นขนาดทางเลือกสำหรับบ้านที่ทำอาหารบ่อยครั้ง แต่ไม่ใช่ทุกวัน และพื้นที่วางถังแก๊สไม่สามารถใช้งานกับถังขนาด 15 กิโลกรัม ที่สูงมากกว่าได้ ถังขนาดนี้ จึงเป็นทางเลือกในการใช้งานที่ดี |
ถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม จะมีความสูง 66 เซนติเมตร เป็นขนาดถังแก๊สที่พบบ่อยที่สุดตามบ้านเรือน หรือแม้แต่ตามร้านอาหารร้านอาหาร เพราะว่าเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้งานทุกวัน โดยถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม ปกติใช้งานได้นานประมาณ 2 เดือน |
ถังแก๊สขนาด 48 กิโลกรัม จะมีความสูงมากถึง 140 เซนติเมตร เป็นถังแก๊สขนาดใหญ่ที่สุด อาจจะไม่เหมาะกับบ้านทั่วไป แต่ถ้าบ้านไหนที่ประกอบกิจการร้านอาหาร ทำเบเกอรี่ หรือครอบครัวขนาดใหญ่มาก ถังขนาดนี้ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนถังบ่อย ๆ แต่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ครัวด้วยเช่นกัน เพราะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมากในการวางถังขนาดนี้ |
น้ำหนักข้างถังแก๊ส หมายถึงอะไร?
น้ำหนักข้างถังแก๊สที่ติดอยู่ข้างถัง เป็นการระบุขนาดบรรจุของถังแก๊สนั้น ยกตัวอย่างเช่น ถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม (แก๊ส LPG จะถูกบีบอัดด้วยความเย็นจนมีสภาพจากแก๊สเป็นของเหลวอยู่ในถัง)
น้ำหนักของถังเปล่า คือ น้ำหนักของเนื้อเหล็ก ที่ประกอบขึ้นมาเป็นรูปร่างของถังแก๊สทรงแคปซูล มีหูจับด้านบน และมีขาตั้งด้านล่าง
ถังเปล่าขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จะมีน้ำหนักโดยประมาณอยู่ที่ 16.5-18.0 กิโลกรัม
น้ำหนักรวมของถังแก๊ส เมื่อบรรจุแก๊สเต็มถังคือ น้ำหนักถัง + น้ำหนักแก๊ส = น้ำหนักรวม
ดังนั้น น้ำหนักโดยประมาณของถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม จะอยู่ที่ประมาณ 31 กิโลกรัม แปรผันไปตามน้ำหนักถังเปล่า ที่ไม่ได้เท่ากันทุกถัง แต่น้ำหนักแก๊ส จะต้องตรงกัน แต่หากน้ำหนักแก๊สที่บรรจุอยู่ไม่เท่ากับที่ระบุอยู่บนถังชนิดนั้น ผู้ใช้สามารถร้องเรียนต่อกรมการค้าภายใน ให้ดำเนินการเอาผิดต่อผู้จำหน่ายได้ เนื่องจากแก๊สหุงต้ม เป็นสินค้าควบคุม ผู้ผลิต และจำหน่ายต้องตรวจสอบคุณภาพ และปริมาณให้ดี ก่อนจะออกไปสู่ผู้บริโภค
👍 ลักษณะของถังแก๊สที่ดี เป็นอย่างไร?
ถังแก๊สที่ดี จะต้องมีเครื่องหมายของผู้ผลิต ตราสัญลักษณ์ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) และมีการระบุน้ำหนักไว้อย่างชัดเจน รวมถึงตัวถังมีสภาพสมบูรณ์ ตัววาล์วปิดสนิท มีซีลปิดผนึกเรียบร้อย บอกวันหมดอายุ และวันตรวจสอบคุณภาพถังครั้งล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญไว้ชัดเจน
👍 วิธีการจัดวางถังแก๊สที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร?
แนวทางในการจัดวาง และการใช้งานของถังแก๊สนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการรั่วไหลของแก๊ส
- การจัดวาง จะต้องจัดวางในพื้นที่ที่สามารถเปิดอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับ และเป็นห้องทึบ
- ถังแก๊สจะต้องไม่วางในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น แสงแดดส่องกระทบโดยตรง จนมีความร้อนสะสมมาก จนอาจเกิดการระเบิดออกมาได้
- ให้วางแนวตั้ง การวางแนวนอน มีความเสี่ยงที่ถังแก๊สจะรั่วไหลออกมาได้ง่าย
- ระมัดระวังในการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะการกลิ้ง หรือกระแทก อาจทำให้ถังบุบ หรือรั่วได้
- ถังแก๊สจะต้องวางห่างออกจากเตา หรือประกายไฟ ประมาณ 1.5 เมตร เพื่อความปลอดภัย ในกรณีเกิดการรั่วไหล ประกายไฟจะไม่สามารถไปถึงถังแก๊สได้ง่าย
- ถังแก๊สจะต้องต้องวางที่แห้ง เพื่อเลี่ยงการเกิดสนิมที่จะทำให้ถังผุได้
- วางถังแก๊สในทิศทางที่สามารถเอื้อมมือ เพื่อปิดวาล์วได้สะดวกที่สุด และง่ายต่อการเปลี่ยนถังจะดีที่สุด เพื่อความสะดวก และปลอดภัย
ถังแก๊สรั่ว แก้ปัญหาอย่างไร?
สัญญาณที่บ่งบอกว่าถังแก๊สรั่ว คือ มีกลิ่นของแก๊สอยู่ในบริเวณนั้น หากมีกลิ่นแรงแสดงว่ามีปริมาณแก๊สรั่วออกมามากแล้ว ให้รีบปฏิบัติ ดังนี้
|
|
|
|
|
เคล็ดลับวิธีใช้ ก๊าซหุงต้ม ให้ประหยัดสุด
- ระหว่างการเตรียมอาหาร ยังไม่ควรเปิดก๊าซหุงต้มแล้วจุดไฟรอไว้
- ตั้งกระทะ หม้อ หรือภาชนะที่ใช้ประกอบอาหารให้อยู่ตรงกึ่งกลางของเตา หากใช้ภาชนะที่ก้นแบน จะช่วยทำให้เปลวไฟสามารถแผ่กระจายทั่วได้ดีมากขึ้น
- ภาชนะที่เราใช้ทำอาหารต้องสะอาด ไม่มีคราบเขม่า ตะกรัน หรือสิ่งสกปรกอื่นใดเกาะติดอยู่ เพราะจะบดบังความร้อน ทำให้การปรุงอาหารสุกช้า ต้องใช้แก๊สหุงต้มในเวลาที่นานขึ้น และในปริมาณมากขึ้น
- การตั้งเตาแก๊สต้องไม่อยู่ในบริเวณที่มีลมพัด หรือไม่ใช้พัดลมเป่าเข้าเตา เพราะลมจะกระจายเปลวไฟ ทำให้โดนภาชนะน้อยลง ทำให้เปลืองแก๊สหุงต้มมากขึ้น
- ควรใช้แก๊สหุงต้มผ่านหัวปรับความดันที่ได้มาตรฐาน จะเป็นการช่วยควบคุม ลดความดันให้พอเหมาะกับการใช้งานนั่นเอง ช่วยให้ประหยัดแก๊ส และช่วยเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น
- ต้องคอยปรับให้เปลวไฟที่ใช้ปรุงอาหารที่ออกมาจากแก๊สหุงต้มให้เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และยังเป็นการช่วยให้ไม่เกิดคราบเขม่าเกาะติดกับภาชนะที่เราใช้ประกอบอาหาร
- หลังการใช้งานหมั่นตรวจตรา และถอดหัวเตาถังแก๊สมาทำความสะอาด อย่างน้อย 2 เดือนต่อครั้ง เพราะหากมีคราบเขม่าเกาะมากไป จะทำให้แก๊สไม่สามารถผ่านหัวเตาออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สิ้นเปลืองก๊าซหุงต้มมากขึ้น
จะเห็นได้ว่า ถังแก๊ส ก๊าซหุงต้ม มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ซึ่งก่อนจะเลือกใช้ถังแก๊สแบบไหนในบ้าน จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน และคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยเป็นสำคัญที่สุด