วิธีปลูกกะเพรา ให้พุ่มใหญ่ ใบหนา เก็บกินได้ตลอดทั้งปี
“กะเพรา” เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และมักปลูกไว้ตามบ้านเรือนต่าง ๆ เนื่องจากกะเพราเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู อย่างไรก็ตาม การปลูกกะเพราอาจกลายเป็นปัญหาสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งมักพบปัญหาเช่น ใบเหลือง ใบน้อย หรือพุ่มเล็ก ดังนั้น ในบทความนี้เราขอนำเสนอ วิธีปลูกกะเพรา ให้พุ่มใหญ่ ใบหนา ด้วยเทคนิค “แกล้งกะเพรา” ที่สามารถทำตามได้ง่ายและได้ผลดีแน่นอนค่ะ!
สายพันธุ์กะเพราที่นิยมปลูก
สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในไทยมีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน โดยเเต่ละสายพันธู์สามารถแยกได้ตามสีก้านและใบดังต่อไปนี้เลยค่ะ
- กะเพราะเเดง กิ่ง ก้าน และใบมีสีแดงอมม่วง ใบเล็ก กลิ่นฉุน นิยมนำมาทำเป็นยาสมุนไพร
- กะเพราขาว กิ่ง ก้าน และใบมีสีเขียว ใบใหญ่ กลิ่นไม่ฉุนหาได้ง่าย นิยมนำมาทำเป็นอาหาร
- กะเพราผสม เป็นการผสมกันระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว เป็นไม้พุ่มเตี้ย แตกกิ่งเยอะ และใบมีสีเขียว ก้านสีแดงอมม่วง กลิ่นฉุนที่สุด
ในบทความนี้ เราขอแนะนำการเลือกใช้ กะเพราขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ยอดนิยมสำหรับการประกอบอาหาร ด้วยกลิ่นที่ไม่ฉุนจนเกินไปและหาซื้อได้ง่าย อีกทั้งเรายังสามารถนำยอดของกะเพราขาวที่ซื้อมามาปลูกต่อได้ โดยการตัดเฉพาะส่วนยอดเพื่อใช้ขยายพันธุ์ ส่วนที่เหลือสามารถนำไปทำอาหารต่อได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกค่ะ!
กะเพราเเดง
กะเพราขาว
กะเพราผสม
สภาพเเวดล้อมที่เหมาะสม
สภาพดินที่เหมาะสม กะเพราเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิดที่มีการระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย
สภาพอากาศที่เหมาะสม อากาศที่เหมาะสมในการปลูกคืออากาศอบอุ่นและชื้น ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 20-38 องศาเซลเซียส ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ แต่ภาคเหนือและภาคอีสานเหนือควรระวังในฤดูหนาวที่อุณหภูมิจะต่ำมาก อาจจะหลีกเลี่ยงการปลูกในช่วงนั้นค่ะ
พื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ควรปลูกกลางเเจ้งที่โดนแดดทั้งวัน เพราะกะเพราชอบแดดทั้งวันและจัด หากใครปลูกในร่มแนะนำว่าควรหาพื้นที่สามารถโดนแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง/วันจะดีที่สุด
วิธีปลูกกะเพรา
กะเพราสามารถปลูกได้ 2 แบบนะคะ คือ ปลูกโดยเมล็ดและปลูกโดยการปักชำ การปลูกด้วยเมล็ดจะมีความเสี่ยงโรคน้อยกว่า แต่ใช้เวลาปลูกนาน เราจึงเลือกวิธีปักชำที่ทำง่าย และเห็นผลเร็ว สะดวกต่อคนปลูกมาก ๆ ด้วยค่ะ
การเตรียมต้นกะเพรา
เราจะเลือกใช้ต้นพันธุ์กะเพราขาว เพราะนิยมปลูกไว้ประกอบอาหาร เนื่องด้วยกลิ่นที่ฉุนน้อยที่สุดจากทั้ง 3 พันธุ์ รสชาติหวาน และปลูกได้ง่ายที่สุด
- การเลือกกิ่งจะเลือกกิ่งที่แก่ปานกลาง ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ซึ่งสังเกตได้จากสีและความแข็งของกิ่ง เราจะไม่ใช้กิ่งที่เป็นสีน้ำตาล และมีดอก นอกจากนี้ไม่ควรเลือกต้นที่ใบเป็นโรค สังเกตจากสีใบที่จะเป็นสีน้ำตาล หรือใบเน่าเปื่อย
- เมื่อเราเลือกกิ่งได้แล้วเราจะตัดใต้ข้อที่ 3 และตัดใบตรงข้อด้านล่างออกไป เพื่อให้กะเพราออกรากบริเวณนั้น
ตัวอย่างการตัดกิ่งกะเพรา
การผสมดิน
- ดิน 2 ส่วน **ควรใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี เช่น ดินร่วน ดินร่วนปนทราย หากใครไม่สะดวกสามารถใช้เป็นดินก้ามปูที่หาซื้อได้ทั่วไปได้เลยค่ะ
- แกลบดิบ 1 ส่วน ถ้าไม่มีสามารถตัดออกไปได้เลยค่ะ
- ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน **สามารถใช้เป็นปุ๋ยหมักพืชสด ปุ๋ยหมักมูลวัว หรือสามารถใช้เป็นปุ๋ยคอกได้เลยค่ะ
- นำทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้วเราจะไปดู วิธีปลูกกะเพรา โดยเรามีมาเเนะนำ 3 วิธีด้วยกัน คือ การปลูกในขวดพลาสติก การปลูกในกระถาง และปลูกในกระบะปลูก ทุกคนสามารถเลือกวิธีได้ตามใจชอบ และตามความเหมาะสมของพื้นที่เเต่ละคนได้เลยนะคะ
1. ปลูกกระเพราในขวดพลาสติก
วิธีปลูกกะเพรา ในขวดพลาสติกนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นที่ เพราะสามารถแขวนไว้ตามระเบียง หรือกำเเพงได้ ช่วยประหยัดพื้นที่มาก ๆ เลยล่ะค่ะ
อุปกรณ์
- ขวดพลาสติก แนะนำให้ใช้ขวดขนาด 1-1.5 ลิตร จะมีขนาดที่พอดีค่ะ
- ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบน สำหรับใครที่ผสมดินเองสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลยนะคะ ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
- เชือกเเขวนยาว 30 เซนติเมตร แนะนำว่าให้ใช้เป็นเชือกไนล่อน หรือเชือกอื่นที่มีความเเข็งเเรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของดินเเละน้ำ
- ด้ายดิบยาว 15 เซนติเมตร สำหรับใช้เป็นตัวกลางดูดน้ำจากด้านล่างขึ้นไปที่ดินด้านบน หรือด้ายอื่นที่นุ่ม สามารถซับน้ำหรือดูดน้ำได้
- ต้นพันธุ์กะเพราขาว ควรใช้กิ่งแก่ปานกลาง หรือใครอยากได้พันธุ์อื่นสามารถใช้ตามที่ต้องการได้เลย
- กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน
วิธีปลูกกะเพราในขวดพลาสติก
วิธีปลูกกะเพราในขวดพลาสติก
- เราจะนำอุปกรณ์ทั้งหมดประกอบกันตามรูปภาพด้านบนเลยนะคะ
- แล้วเติมน้ำลงไปประมาณ ⅓ ของขวด แล้ววางด้ายดิบโดยให้ครึ่งหนึ่งอยู่ด้านบนและครึ่งนึงจุ่มน้ำไว้ เพื่อทำหน้าที่ดูดซับน้ำขึ้นไปบนดิน
- ใช้กากมะพร้าวสับอุดบริเวณปากขวดไว้เพื่อกันไม่ให้เชือกไหลลง
- ใส่ดินปลูกลงด้านบน รดน้ำเบา ๆ ให้ดินชุ่ม ลงปลูกกะเพราลึกประมาณ 3 เซนติเมตร หนึ่งต้นต่อขวด
- นำไปวางบริเวณที่เป็นที่ร่มประมาณ 7 วัน แล้วย้ายไปตรงที่โดนแดดมากที่สุดเพื่อให้กะเพรารับแแสงแดด
2. ปลูกกะเพราในกระถาง
วิธีปลูกกะเพรา ในกระถางเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกันมาก เนื่องจากอุปกรณ์หาง่ายได้ทั่วไป แต่ข้อเสียของการปลูกในกระถางต้นที่ได้จะเล็กกว่าปลูกลงเเปลง ดังนั้นเราจึงมีวิธีที่จะทำให้กะเพราต้นเล็ก ใบหนา และพุ่มใหญ่ค่ะ
วิธีปลูกกะเพราในกระถาง
อุปกรณ์
- กระถาง โดยกระถางที่เหมาะควรมีขนาด 12 นิ้ว ซึ่งสามารถปลูกได้ 3 ต้น หากใช้กว้างกว่านี้สามารถปลูกจำนวนตามความเหมาะสม
- ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบนนะคะ หรือใครไม่ผสมดินเองสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลย ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
- ไม้ไผ่ค้ำ สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร **สามารถใช้เป็นไม้ที่มีที่บ้านได้ แต่ควรมีความเเข็งเเรงสามารถค้ำต้นกะเพราได้
- กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน
- ต้นพันธุ์กะเพราขาว หรือใช้สายพันธุ์ที่ต้องการ
วิธีปลูกกระเพราในกระถาง
- นำกากมะพร้าวสับมารองก้นกระถางประมาณ 1 นิ้ว
- ใส่ดินปลูกที่ผสมไว้ลงไปในกระถาง เหลือพื้นที่ปากกระถางลึกประมาณ 1 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- นำยอดที่ตัดแล้วเสียบลงบนดิน ระยะห่าง 10-15 เซนติเมตร ความลึกประมาณ 3 เซนติเมตร
- คลุมทับด้วยกากมะพร้าวสับบาง ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางไว้ในที่ร่ม 7 วัน รากจะเริ่มออก เราก็สามารถนำออกไปวางให้โดนแดดได้เลย
- โดยเมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ใช้ไม้ไผ่มาค้ำไว้ต้นเพื่อกันต้นล้ม ในระยะนี้เราสามารถเด็ดยอดเพื่อเพิ่มการเเตกยอดให้ใบเยอะได้ค่ะ เพราะกระถางมีพื้นที่จำกัดต้นจะไม่สูงใหญ่ เราจึงใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มจำนวนใบแทน
3. ปลูกกะเพราในกระบะปลูก
วิธีปลูกกะเพรา ด้วยการใช้กระบะปลูกนี้ สามารถปลูกได้เยอะขึ้น หรือปลูกพืชอื่นเเซมด้วย โดยการปลูกในกระบะจะช่วยให้ได้ต้นกะเพราที่ใหญ่และสูงขึ้น โดยสามารถเลือกสไตล์กระบะให้เข้ากับสไตล์การเเต่งสวนของคุณเองเพื่อความสวยงามได้เลยนะคะ
วิธีปลูกกะเพราในกระบะปลูก
อุปกรณ์
- กระบะปลูก โดยควรใช้กระบะที่ลึก 20 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อให้รองรับการกระจายรากของกะเพรา
- ดินปลูก เราจะใช้ดินที่ผสมไว้ตามสูตรด้านบนนะคะ หรือสามารถใช้ดินปลูกสำเร็จรูปได้เลย และไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มค่ะ
- ไม้ไผ่ค้ำ สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร **สามารถใช้เป็นไม้ที่มีที่บ้านได้ แต่ควรมีความเเข็งเเรงสามารถค้ำต้นกะเพราได้
- กากมะพร้าวสับ ใช้เพื่อช่วยระบายน้ำเละเก็บความชื้น แนะนำว่าให้เเช่น้ำก่อน 2-3 คืน แล้วตากให้แห้งก่อนใช้เพื่อลดสารเเทนนิน
- ต้นพันธุ์กะเพราขาว หรือพันธุ์อื่นตามต้องการ
วิธีการปลูกกระเพราในกระบะปลูก
- นำกากมะพร้าวสับมารองก้นกระบะประมาณ 3 นิ้ว เพื่อกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น
- ใส่ดินปลูกที่ผสมไว้ลงไปในกระบะ โดยเหลือพื้นที่ปากกระบะลึกประมาณ 2 นิ้ว
- รดน้ำให้ชุ่มเล็กน้อย แล้วนำยอดที่ตัดแล้วปักลงบนดิน โดยระยะควรห่างกัน 10-15 เซนติเมตร ปักลึกประมาณ 3 เซนติเมตร
- คลุมทับด้วยกากมะพร้าวสับบาง ๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- โดยเมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เราจะเอาไม้ไผ่ค้ำมาค้ำไว้ต้นกะเพราไว้กันต้นล้ม
วิธีการดูแลกะเพรา
หลังจากที่เราอ่าน วิธีการปลูกกะเพรา เเล้วก็ต้องมาต่อที่การดูเเลกันต่อค่ะ เพราะไม่ว่าจะปลูกพืชอะไรก็เเล้วเเต่เราก็ควรที่จะดูเเลเพื่อให้พืชของเรานั้นสวยและมีผลผลิตดี ซึ่งทุกคนสามารถดูเเลกระเพราง่าย ๆ ตามด้านล่างได้เลยนะคะ
- การพรวนดิน: หากดินแน่นควรมีการพรวนหน้าดิน เพื่อให้อากาศเข้าไปทำให้ดินโปร่ง ช่วยลดการเน่าของราก
- การให้น้ำ: กะเพราเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงแต่ไม่แฉะ ช่วงเเรกควรรดน้ำเช้า-เย็น และเมื่อต้นใหญ่ขึ้นแนะนำให้รดอย่างน้อย 2 คร้ง/สัปดาห์ก็เพียงพอ
- การให้ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้นเดือนละครั้ง ประมาณ 20 กรัม/ต้น สำหรับการให้ปุ๋ยไม่ควรให้โดยตรงที่โคนต้น ให้โรยรอบ ๆ ห่างจากโคนตามความกว้างของทรงพุ่ม
- ตัดเเต่งใบ: ควนตัดเเต่งใบเหลือง เเละใบที่เน่าออกเพื่อป้องกันการเเย่งสารอาหารและการลุกลามของโรคพืช
การเก็บเกี่ยวกะเพรา
บางคนนิยมเก็บดอกกะเพรามาประกอบอาหารด้วยเพื่อเพิ่มความหอม
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวได้หลังปลูก 2 เดือนขึ้นไป และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน ลักษณะต้นที่เก็บได้ สังเกตจากการที่เริ่มมีดอก และส่งกลิ่นหอมชัดเจน โดยวิธีการเก็บเราจะเก็บที่กิ่งแก่หรือยอดโดยการเด็ด กะเพราจะเเตกยอดออกมาใหม่สามารถเก็บกินได้ตลอดทั้งปี
ศัตรูพืชและวิธีการป้องกัน
แมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกะเพรา
- เพลี้ยไฟ เป็นแมลงปากดูดมักพบมากบริเวณยอดจะเห็นเป็นตัวสีเเดง ๆ ทำให้ใบหงิก ยอดเหลือง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
- แมลงหวี่ขาว เป็นแมลงปากดูด เราจะสังเกตจากบริเวณใต้ใบเป็นตัวสีขาว ๆ เล็ก ๆ โดยอาการสังเกตที่ใบหงิก ซีดด่าง หรือใบหงิกเหลือง
โรคพืชที่พบบ่อยในกะเพรา
- โรคราน้ำค้าง พบได้ทุกระยะของการเจริญเติบโต อาการจะเเสดงให้ใบด้านบนเหลือง และใต้ใบมีเส้นใบราสีน้ำตาลทั่วใต้ใบ เมื่อลุกลามใบจะเเห้งเหี่ยวตายไป
- โรคเหี่ยว โรคนี้มักพบบ่อยในฤดูฝนที่การระบายน้ำไม่ดีและมีน้ำขัง โดยเริ่มเเรกรากจะเน่าสังเกตจากใบเป็นสีน้ำตาล ทำให้ใบเหลืองเมื่อลุกลามใบจะเหี่ยวและยืนต้นตาย
วิธีป้องกันและแก้ไข
- ก่อนปลูกควรไถตากดินกับแดดเพื่อฆ่าเชื้อราและไข่หนอน ประมาณ 15 วัน หากปลูกในกระถางแนะนำใช้ดินปลูกใหม่
- เลือกระยะเวลาปลูก ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในฤดูฝน
- เลือกต้นพันธุ์ที่ปลอดเชื้อ
- รักษาความสะอาดและความชื้นในภาชนะปลูก
- ทำลายต้นที่มีเชื้อข้างนอกไกล ๆ พื้นที่ที่ปลูก
- ช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย มีฤทธิ์ในการลดระดับของไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันไม่ดี และในขณะที่ไขมันชนิดดีกลับเพิ่มขึ้น
- ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ในการขับไขมันและน้ำตาลที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกายได้จึงช่วยลดระดับของน้ำตาลในเลือดได้ดี
- ป้องกันโรคมะเร็ง โดยมีสารสกัดจากใบกะเพรา สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในปาก และมีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดได้
- รักษาสุขภาพในช่องปาก กะเพราสามารถทำให้ระดับคราบพลัคและอาการเหงือกอักเสบลดลงและที่สำคัญไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ วิธีปลูกกะเพรา ทำตามได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ วิธีที่เเนะนำไปรับรองว่ากะเพราของทุกคนจะพุ่มใหญ่ ใบหนา มีกินตลอดปี ไม่ต้องซื้อกินอีกต่อไปเลยค่ะ